Search
พานาคอตต้างาดำ-cover1-3
Healthy Food (เมนูสมุนไพรเพื่อสุขภาพ)

พานาคอตต้างาดำ

เรื่องเล่าเมนูไทยเทสเทอราปี

Story

ชื่อขนม ‘พานาคอตต้า’ ไม่พบว่ามีบันทึกในตำราอาหารอิตาลีช่วงก่อนปีคริสต์ทศวรรษ 1960 กล่าวกันว่าพานาคอตต้าเป็นขนมหวานดั้งเดิมจากแคว้นพีดมอนต์ ซึ่งเป็นแคว้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับขนมชนิดนี้อยู่เรื่องหนึ่ง เล่าว่า พานาคอตต้าคิดค้นโดยหญิงชาวฮังการีคนหนึ่งในแถบลันเก ทางภาคตะวันตกของแคว้นในต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 พจนานุกรมฉบับหนึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1879 บันทึกถึงอาหารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “ลัตเตอินเกลเซ” หรือนมอังกฤษ ทำจากครีม ปรุงกับเจลาติน แล้วเทใส่แม่พิมพ์ และพบบันทึกในเล่มอื่นอีกว่า ลัตเตอินเกลเซ ทำจากไข่แดง

ต่อมา แคว้นพีดมอนต์ได้บรรจุพานาคอตต้าลงในรายชื่ออาหารดั้งเดิมของแคว้นในปี ค.ศ.2001 โดยมีส่วนผสมหลักได้แก่ ครีม นม น้ำตาล วานิลลา เจลาติน รัม และไวน์มาร์ซาลา เทใส่แม่พิมพ์ที่มีน้ำตาลเคี่ยวรองก้อน ตำราบางเล่มเขียนว่า พานาคอตต้าตามสูตรดั้งเดิมจะต้องใส่บรั่นดีลูกท้อและไม่มีซอสหรือเครื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม

ประโยชน์ของพืชผักสมุนไพร

Health Benefits

‘พานาคอตต้างาดำ’ ของหวานสไตล์อิตาเลียน หน้าตาคล้ายพุดดิ้ง เนื้อสัมผัสเนียนละเอียด หอมกลิ่นงาดำที่ผสมอยู่ในเนื้อ และซอสงาดำที่ราดรอบๆ มีรสชาติหวานมันค่อนไปทางนมชวนสดชื่น เหมาะรับประทานเป็นเมนูตบท้ายหลังอาหารมื้อใหญ่

  • ‘งาดำ’ มีสารเซซามิน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ*

ส่วนผสม

Ingredients

  • นมถั่วเหลือง 1/3 ถ้วย
  • เจลาตินแผ่น 1 แผ่น
  • น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
  • ครีมงา 1/4 ถ้วย
  • งาดำ 1 กรัม

วิธีการทำ

Directions

นำนมถั่วเหลืองไปต้มจนพอเดือด แล้วจึงใส่น้ำผึ้งลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากัน

นำครีมงาดำที่เตรียมไว้ละลายผสมกับนมถั่วเหลือง เคี่ยวเล็กน้อย พอเดือดดี

ยกออกจากเตา ใส่แผ่นเจลาตินที่นุ่มดีแล้วลงไป คนให้ละลายดี แล้วตักใส่แม่พิมพ์ นำไปแช่ในตู้เย็นจนแข็งตัว

อ้างอิง
* Ruan CC, Liang Y, Liu JL, Tu WS, Liu ZH. Antimutagenic effect of natural foods on moldy foods in high liver cancer incidence area. Mutat Res 1992;279(1):35-40