Search
ข้าวคลุกกะปิ-cover1-2
Healthy Food (เมนูสมุนไพรเพื่อสุขภาพ)

ข้าวคลุกกะปิตำรับคนเมืองเสริมแร่ธาตุ

เรื่องเล่าเมนูไทยเทสเทอราปี

Story

ข้าวคลุกกะปิไม่พบบันทึกว่า ผู้ใดเป็นคนรังสรรค์เมนูนี้ เพียงแต่นิยมรับประทานกันมานานแล้ว สูตรต้นตำรับชาววังแท้ ๆ ต้องมี ปลาดุกย่างคลุกเคล้าด้วยเสมอ

ข้าวคลุกกะปิเป็นอาหารตำรับชาวเมืองที่มีรสชาติครบเครื่อง มีวัตถุดิบหลากหลาย แต่เมื่อทานผสมกันแล้วกลับมีรสชาติที่เข้ากันอย่างดี ถือว่าเป็นอาหารกะปิอีกหนึ่งเมนูที่เลิศรส ‘กะปิ’ เป็นเครื่องปรุงคู่บารมีที่สำคัญของครัวเรือนสยามมาอย่างยาวนาน คนไทยรู้จักกะปิมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหง ตอนที่สุโขทัยแพร่อำนาจขยายอาณาเขตลงทางใต้ จนครอบครองปัตตานีก็ได้นำกะปิขึ้นเหนือกลับสู่กรุงสุโขทัยมาด้วย

กะปิมีบันทึกเป็นหลักฐานในสมัยพระนารายณ์มหาราชช่วงที่ประกาศใช้นโยบายเปิดประเทศ ได้มีมิตรสหายต่างชาติเข้ามากรุงศรีอยุธยา มีทูตจากเปอร์เซียเข้ามาเยือน และบันทึกถึงกะปิไว้ว่า กะปิเป็นเครื่องปรุงอาหารอย่างหนึ่งของไทย เป็นของเน่า กลิ่นเหม็น ไม่เห็นสมควรนำไปปรุงอาหารได้เลย

แต่หลังจากนั้น 21 ปี ทูตฝรั่งเศสได้มาเยือน และบันทึกถึงกะปิไว้ว่า กะปินั้นไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างที่ทูตของเปอร์เซียบรรยายเอาไว้ โดยบรรยายถึง สำรับกับข้าวไทยว่า ปกติซอส (น้ำพริก) ของไทยก็ไม่ค่อยมีอะไร ใส่พริก กระเทียม และเครื่องเทศ ไม่รู้ทำไมคนไทยถึงชอบเจ้ากุ้งที่หมักจนเปื่อย ที่เรียกว่า ‘กะปิ’ มากจนต้องผสมมันลงไปด้วยเสมอ ๆ ดังกล่าว เป็นหลักฐานว่า ทูตฝรั่งเศสได้บันทึกถึง ‘น้ำพริกกะปิ’

ส่วนข้าวคลุกกะปิ มีพูดถึงครั้งแรกสมัยรัชกาลที่ 5 ตอนเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1907 มีบันทึกว่า รัชกาลที่ 5 ทรงพระสุบินถึง กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร ผู้มีศักดิ์เป็นยายว่า ปรุงข้าวคลุกกะปิให้รับประทานได้อร่อยนัก เมื่อตื่นขึ้นมา พระองค์จึงมีพระบรมราชโองการให้เตรียมกะปิและเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้พร้อมสรรพ จากนั้นพระองค์ก็ทรงคลุกเสวยด้วยพระองค์เองในตอนเช้าที่ยุโรป

ประโยชน์ของพืชผักสมุนไพร

Health Benefits

‘ข้าวคลุกกะปิตำรับคนเมืองเสริมแร่ธาตุ’ เป็นอาหารจานเดียวที่ใช้ข้าวผัดกับกะปิ จนหอมเป็นเนื้อเดียวกัน จัดเสิร์ฟให้กินพร้อมเครื่องเคียงหลายอย่างทั้งผักและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ข้าวคลุกกะปิจานเดียวจึงมีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ ทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์และไข่ รวมไปถึงผักเคียงต่าง ๆ ก็ให้ทั้งวิตามินและสารอาหารครบถ้วน ด้านกะปิที่คลุกผัดกับข้าวยังมีแคลเซียมสูง ช่วยเพิ่มกลิ่นหอม และรสเค็มนัว

  • ‘กะปิ’ มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟันและป้องกันโรคโลหิตจาง เพราะมีวิตามินบี 12
  • ‘มะม่วง’ มีสารต้านอนุมูลอิสระ*
  • ‘หอมแดง’ ช่วยป้องกันการแพ้ ป้องการอักเสบ รวมถึงป้องกันแบคทีเรียและไวรัส**
  • ‘พริกขี้หนู’ ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก ลดเสมหะ***
  • ‘กระเทียม’ ช่วยเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน****
  • ‘พริกไทย’ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ*****
  • ‘ถั่วฝักยาว’ มีใยอาหารในถั่ว สามารถควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้สูงจนเกินไป มีแคลอรี่และน้ำตาลต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี

ส่วนผสม

Ingredients

  • ข้าวหอมมะลิ 150 กรัม
  • กะปิ 30 กรัม
  • สันในหมู 100 กรัม
  • กุ้งแห้ง 10 กรัม
  • มะม่วง 10 กรัม
  • หอมแดง 5 กรัม
  • ถั่วฝักยาว 5 กรัม
  • พริกขี้หนู
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • น้ำตาลโตนด 5 กรัม
  • รากผักชี 2 ชิ้น
  • กระเทียม 15 กรัม
  • พริกไทยขาว 1 กรัม

วิธีการทำ

Directions

เผาหรือย่างกะปิให้มีกลิ่นหอม

นำกะปิที่ย่างจนหอมแล้ว มาคลุกกับข้าวหอมมะลิและกุ้งแห้งจนเข้ากัน

หั่นซอยวัตถุดิบต่าง ๆ ให้เป็นฝอย ๆ ทั้งมะม่วง หอมแดง ถั่วฝักยาว พริก และไข่เส้น

นำข้าวคลุกกะปิที่เตรียมไว้มาจัดจานพร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ

อ้างอิง
* “Mango”. Fruits of Warm Climates. NewCROP, New Crop Resource Online Program, Center for New Crops & Plant Products, Purdue University. pp. 221–239. ISBN 0-9610184-1-0.
** Russo M, Spagnuolo C, Tedesco, The flavonoid quercetin in disease prevention and therapy: facts and fancies. Biochem Phamacol. 2012;83(1):6-15.
*** Vonne D., Ofelia G., Guillermo O., José P., & Tzayhrí G. (2014). Determination of Capsaicin, Ascorbic Acid, Total Phenolic Compounds and Antioxidant Activity of Capsicum annuum L. var. serrano by Mid Infrared Spectroscopy (Mid-FTIR)
and Chemometric Analysis. Journal of the Korean Society for Applied Biological Chemistry, 57(1): 133-142.
**** Moutia M, et al. Review Article In Vitro and In Vivo Immunomodulator Activities of Allium sativum L. Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine 2018; Article ID 4984659.https://doi.org/10.1155/2018/4984659
***** Tasleem F, Azhar I, Ali SN, Perveen S, Mahmood ZA. Analgesic and anti-inflammatory activities of Piper nigrum L. Asian Pacific journal of tropical medicine. 2014;7(Suppl 1):S461-S468.